8 เทคนิคในการตั้งชื่อร้านหรือ ตั้งชื่อแบรนด์หรือให้ขายดี รับทรัพย์
8 เทคนิคในการตั้งชื่อร้านหรือ ตั้งชื่อแบรนด์หรือให้ขายดี รับทรัพย์

วันที่เผยแพร่: 23 เมษายน 2562


""การตั้งชื่อร้านหรือการตั้งชื่อแบรนด์นั้นเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ เพราะ ชื่อร้านหรือชื่อแบรนด์ เป็นจุดเริ่มต้น ในการทำธุรกิจที่จะทำให้ ลูกค้าจะสามารถจดจำสินค้าหรือร้านของคุณได้ ก็มาจากการตั้งชื่อร้าน หรือชื่อแบรนด์ที่ดี สั้น จดจำได้ง่ายค่ะ สามารถสื่อถึงความเป็นเอกลักษณ์ได้ดี การตั้งชื่อร้านหรือการตั้งชื่อแบรนด์ที่ดีนั้นจะส่งผลต่อการทำการตลาดได้ง่ายอีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจก็อย่าละเลยให้ความสำคัญของการตั้งชื่อร้านหรือการตั้งชื่อแบรนด์ที่ดีด้วยนะคะ . "

8 เทคนิคในการตั้งชื่อร้านหรือ ตั้งชื่อแบรนด์หรือให้ขายดี รับทรัพย์

8 เทคนิคในการตั้งชื่อร้านหรือ ตั้งชื่อแบรนด์หรือให้ขายดี รับทรัพย์ 

 

หลาย ท่านที่ต้องการ ตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ อาจจะไม่ทราบว่าจะตั้งชื่อออกมาอย่างไรดี ถึงจะมีความหมายที่ดี เหมาะสมกับลักษณะของธุรกิจ และช่วยส่งเสริมกิจการให้มียอดขายดีแบบเทน้ำเทถ้าได้ โดยารตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ ที่เหมาะสม จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณนั้นดูแตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่งทางธุรกิจ และยังช่วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับแบรนด์หรือร้านได้อีกด้วย ชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านจะมีผลโดยตรงกับการรับรู้ภาพลักษณ์ของธุรกิจต่อลูกค้า ความเป็นมืออาชีพในธุรกิจ หากเรา ได้ตั้งชื่อร้านเก๋ๆ หรือตั้งชื่อแบรนด์ที่มีความโดดเด่น ที่สามารถสื่อได้ว่าเราทำธุรกิจอะไร จะช่วยดึงดดลูกค้าที่สนใจสินค้าหรือบริการของเราให้เข้ามาซื้อสินค้าได้อย่างตรงจุด เพราะฉะนั้น หากเราเริ่มต้นกิจการโดยเลือกใช้ชื่อที่ดี จะมีชัยไปกว่าครึ่งเลยละค่ะ 

 

ตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ เป็นเรื่องสำคัญมากๆที่ต้องให้ความสำคัญ หากชื่อที่เลือกใช้นั้นเป็นชื่อร้านมงคล หรือ ชื่อแบรนด์มงคล ที่ถูกต้องตามหลักเลขศาสตร์แล้วด้วย จะเป็นการตั้งชื่อที่ดีที่จะช่วยส่งเสริมกิจการ  ให้มีความเจริญรุ่งเรือง และความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้งได้เลยค่ะ 

 

เรามาตามติดตามกันนะคะ 8 เทคนิคในการตั้งชื่อร้านหรือ ตั้งชื่อแบรนด์ให้ขายดี นั้นมีอะไรกันบ้างค่ะ 

 

1.ตั้งชื่อร้านมงคลหรือตั้งชื่อแบรนด์ ที่มีความเป็นมงคล ถูกหลักเลขศาสตร์

 

ควรเลือกใช้ชื่อแบรนด์มงคล หรือ ชื่อร้านมงคล โดยชื่อที่เป็นมงคลนั้นมักจะตั้งชื่อให้ผ่านหลักเลขศาสตร์ อยู่ในกลุ่มเลขที่ดีด้วย จะเห็นได้ว่า ชื่อแบรนด์สินค้าใหญ่ๆ หลายแบรนด์มักตั้งชื่อแบรนด์ให้ได้เลขศาสตร์ที่อยู่ในกลุ่มดีมากด้วย เป็นชื่อแบรนด์มงคลที่ช่วยส่งเสริมดวงชาตา กิจการให้เจริญก้าวหน้า ร่ำรวย ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย หรือยกตัวอย่างการตั้งชื่อแบรนด์มงคลที่หลายคนคงคุ้นหูกัน ได้แก่ ชื่อแบรนด์ Dior พบว่าถอดค่าทางเลขศาสตร์ได้เลข 14 ซึ่งเป็นเลขที่ดีมากๆอิทธิพลของเลขนี้ ส่งผลให้ กิจการที่ทำอยู่มักมีผู้อุปถัมภ์เป็นอย่างดี  ทำกิจการหรือมีหุ้นส่วนค่อนข้างดีมาก มีความสามารถรอบด้านไม่ว่าจะเป็น ด้านวิชาการ หรือ ด้านศิลปะ มีความคิดที่ลึกซึ้ง จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทั้งทางด้านครอบครัวและด้านสินทรัพย์ฐานะร่ำรวย 

 

 

          เลขศาสตร์ที่แนะนำสำหรับการตั้งชื่อแบรนด์ หรือตั้งชื่อร้าน ที่เสริมดวงกิจการให้เฮงและปัง ได้แก่เลข เลขศาสตร์ 36 41 42 45 50 51 55 59 63 65 เป็นต้นค่ะ 

อ.ชัญ แนะนำ 

สำหรับใครที่มีชื่อบริษัทอยู่แล้ว หรือมีชื่อบริษัทที่กำลังจะใช้อยู่ในใจสามารถตรวจความเป็นมงคลได้ที่  คลิก

 

 

 

2.ตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ ให้มีความหมายดี

 

ารตั้งชื่อร้าน หรือ ตั้งชื่อแบรนด์ ให้มีความหมายที่ดี หรือมีความหมายเชิงบวก สามารถ แสดงจุดยืน ภาพลักษณ์ของร้านในทางที่ดีต่อลูกค้า ลูกค้าหลายคนอาจถูกใจความหมายดี ๆ ความหมายแสดง ความคิดเชิงบวก ของชื่อร้านจนนำมาสู่การเลือกซื้อสินค้าและตัดสินใจซื้อในที่สุด 
เช่น ร้านเสื้อผ้าผู้ชาย อาจจะตั้งชื่อว่า Alano (อลาโน่) ที่แปลว่า หนุ่มรูปงาม 
ร้านดอกไม้ อาจจะตั้งชื่อว่า Olivia (โอลิเวีย) ที่แปลว่า สัญลักษณ์แห่งความสงบสุข 

 

 

3.ตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ ที่สะกดง่าย ออกเสียงไม่ยาก

 

ชื่อร้านหรือชื่อแบรนด์ ที่คุณตั้งควรเป็นชื่อที่สะกดและออกเสียงเรียกได้ไม่ยาก เพราะจะทำให้ลูกค้าจดจำได้รวดเร็วและไม่ลืมง่าย ๆ หากตั้งชื่อแบรนด์หรือตั้งชื่อร้านที่ยากเกินไปอาจทำให้ลูกค้าไม่กล้าที่จะออกเสียง เพราะกลัวเรียกชื่อร้านผิด ถึงเรียกออกมาได้ก็ไม่ง่ายต่อการจดจำ 
เช่น ร้านเบเกอรี่สุดน่ารักที่ชื่อว่า เคียงดาวโฮมคาเฟ่ (Keangdow Home Cafe) 
ร้านอาหารชื่อดังที่ใช้ชื่อว่า ครัวดอกไม้ขาว (White Flower Restaurant) 

 

 

4.ตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ ที่สั้นจำง่าย หลีกเลี่ยงการใช้อักษรย่อ หรือชื่อย่อ

 

การตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ การใช้ชื่อย่อนั้นอาจทำให้ง่ายต่อการโฆษณา และการสื่อสารที่ง่ายขึ้นก็จริง แต่ในบริษัทเล็ก ๆ หรือขนาดกลางนั้น การใช้ชื่อย่อจะทำให้ลูกค้าที่ไม่ทราบว่าคุณทำธุรกิจด้านใด เกี่ยวกับอะไร และการที่ใช้อักษรย่ออาจจะทำให้ชื่อร้าน ไม่เป็นที่จดจำ ยกตัวอย่าง ร้าน ACC coffee กับร้าน A cup of coffee จะเห็นได้ว่าชื่อร้านที่มีการเขียนแบบเต็มนั้นจะสามารถจดจำได้ง่ายกว่า  

 

 

5.ตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์  ให้โดดเด่น สะดุดหู ตรงกับภาพลักษณ์

 

การทำให้ชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านโดดเด่น มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นคำที่สะดุดหู รู้สึกกระแทกใจจะช่วยดึงความสนใจของลูกค้าได้มากขึ้น และสามารถแสดงถึงความโดดเด่นของร้านของมาได้อย่างดี สามารถจดจำชื่อร้านได้อย่างง่าย ยกตัวอย่าง การตั้งชื่อร้านอาหาร ชื่อร้านแซ่บปากเปิด หรือ อีสานยกครก เป็นต้น 

 

 

 

 

 

6.ตั้งชื่อแบรนด์หรือตั้งชื่อร้านไม่ซ้ำ หรือใกล้เคียงกับชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านที่อื่น ๆ

 

การตั้งชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านที่เหมือนหรือคล้ายกันนั้นจะทำให้ลูกค้าเกิดความเข้าใจผิด สับสน และลังเลในการเข้าใช้บริการ  เพราะนอกจากสร้างความสับสนให้กับลูกค้าแล้วยังทำให้สร้างปัญหาในเรื่องของลิขสิทธิ์ที่ตามมาในภายหลังได้  ดังนั้นจะตั้งชื่อร้านก็ควรหาข้อมูล สำรวจดูให้ดีว่าไม่มีคนอื่นใช้อยู่ก่อนแล้ว หรือไม่คล้ายกันจนเกินไป 

ยกตัวอย่างการตั้งชื่อร้าน เช่น ร้านกาแฟ ที่มีชื่อคล้ายๆกันจนเกิดเป็นคดีฟ้องร้องกันในที่สุด อย่าง สตาร์บัคส์ VS สตาร์บังเป็นต้น 

 

 

7.ตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ ไม่ควรเอาสถานที่มาตั้งเป็นชื่อร้าน

 

ข้อเสียก็มีอยู่ว่าการการตั้งชื่อร้านหรือตั้งชื่อแบรนด์ ตามสถานที่ตั้งนั้นอาจเป็นข้อจำกัดในอนาคตเมื่อเจ้าของธุรกิจคิดจะขยายสาขาเพิ่ม หรือ ต้องการที่จะเปิดแฟรนไชส์ ไปยังพื้นที่อื่นๆ ทำให้การใช้ชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านที่ตั้งตามทำเลนั้นเป็นปัญหาในอนาคต เพราะลูกค้าอาจจะสับสนได้ว่า สถานที่ร้านนั้นตั้งอยู่ที่จังหวัดใดกันแน่ ยกตัวอย่างเช่น บางเขนเครื่องใช้ไฟฟ้า อีกข้อแนะนำที่ไม่ควรนำมาใช้ในการตั้งชื่อร้านหรือการตั้งชื่อแบรนด์คือชื่อเจ้าของธุรกิจ เนื่องจากการนำชื่อของตัวเองมาตั้งชื่อแบรนด์หรือตั้งชื่อร้านนั้นอาจจะเกิดปัญหาในการจดจำของลูกค้า อีกทั้งชื่อบุคคลยังเป็นชื่อที่ไม่สร้างความดึงดูดใจต่อลูกค้าอีกด้วย ยกตัวอย่างชื่อร้าน เช่น สุวินิตการช่าง

 

 

 

 

 

8.ตั้งชื่อแบรนด์หรือตั้งชื่อร้านที่ง่ายต่อการทำโลโก้

 

โลโก้ร้าน หรือ โลโก้แบรนด์ ที่สวยงามนั้นส่วนหนึ่งจะมาจากชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านนั่นเอง ชื่อควรตั้งให้สะดุดตา มีความยาวพอดี สามารถดึงดูดให้ลูกค้ามาสนใจได้ เนื่องจากโลโก้ทำหน้าที่เดียวกับชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านที่จะต้องไปอยู่บนป้าย บนนามบัตร บนสินค้า หรือบนบรรจุภัณฑ์ของแบรนด์หรือร้าน ดังนั้นการตั้งชื่อร้านจึงควรคำนึงด้วยว่าจะเกิดปัญหาต่อการออกแบบโลโก้ร้านหรือไม่ เมื่อได้ชื่อแบรนด์หรือชื่อร้านที่ต้องการแล้ว ให้ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้ากับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ หรือนำชื่อร้านไปให้ในทางที่ผิด 

 

 

 

 

 

หากใครประสบปัญหา ตั้งชื่อร้านอะไรดี หรือ ตั้งชื่อแบรนด์อะไรดี หรือยังไม่มีไอเดียในการตั้งชื่อร้าน หรือ อ.ชัญ ก็มีบริการตั้งชื่อบริษัท ตั้งชื่อแบรนด์ และตั้งชื่อร้านโดยไม่ซ้ำกับคนอื่น คลิ และจะพิจรณาจากหลักเลขศาสตร์ตามภาษาหลัก ในการตั้งชื่อ โดยอ.ชัญ จะดูชื่อร้านมงคล ชื่อแบรนด์มงคล ที่เสริมภาพลักษณ์ของกิจการให้ด้วยค่ะ  

 

heart การจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จต้องใส่ใจในทุกรายละเอียดค่ะ เราจะได้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจค่ะ heart

 

สนใจตั้งชื่อแบรนด์ ตั้งชื่อร้าน ออกแบบโลโก้ฮวงจุ้ย กับ อ.ชัญ thelucky  คลิกที่นี่       

ดูรีวิวผู้ใช้บริการตั้งชื่อแบรนด์ ตั้งชื่อร้าน ออกแบบโลโก้ by อ.ชัญ  

 

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

 

 

 

Line : @theluckyspace 

 

Line : @Theluckyname 

 

ตัวอย่างผลงานตั้งชื่อบริษัท/แบรนด์มงคล โลโก้บริษัท/แบรนด์ฮวงจุ้ย 

 
heartตัวอย่างผลงานตั้งชื่อบริษัท/แบรนด์มงคล โลโก้บริษัท/แบรนด์ฮวงจุ้ยheart
 
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
โลโก้ฮวงจุ้ย
 

บทความโดย 

อ.ชัญ  theluckyname  “เปลี่ยนชื่อ  เปลี่ยนชีวิต”

ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการ “ตั้งชื่อ-ฮวงจุ้ย"​

 

 Tags: ตั้งชื่อแบรนด์, ตั้งชื่อบริษัท, โลโก้แบรนด์, โลโก้บริษัท, แพคเกจจิ้ง, Packaging, นามบัตร, โลโก้, นามบัตร, นามบัตรฮวงจุ้ย, ตั้งชื่อแบรนด์มงคล, ตั้งชื่อบริษัทมงคล, โลโก้แบรนด์ฮวงจุ้ย, โลโก้บริษัทฮวงจุ้ย

← ย้อนกลับ

theluckyname
theluckyname
theluckyname