วันที่เผยแพร่: 3 กรกฎาคม 2558
" มีรายงานวิจัยชิ้นสำคัญบ่งชี้ว่า เสียงดนตรีคลาสสิกช่วยให้เด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนด เพิ่มน้ำหนักตัวได้เร็วขึ้น และแข็งแรงขึ้นด้วย . "
คุณแม่สมัยนี้ยังไม่มีใครร้องเพลงกล่อมลูกอยู่บ้างไหมค่ะ
เดาว่าคงมีน้อยมาก (หรือแทบไม่มีเลย) จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที แต่ทราบไหมค่ะว่าเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนของคุณแม่นี่ล่ะ ช่วยเสริมสร้างคุณภาพของลูกน้อยในครรภ์ได้ ช่วยให้ทารกจดจำเสียงคุณแม่ได้ดีขึ้น หรือถ้าไม่ร้องเพลงกล่อมก็อาจจะเป็นแค่การพูดคุยธรรมดา หรือเล่านิทาน เพื่อให้ทารกชินตั้งแต่ในครรภ์ พอคลอดออกมาแล้วก็สามารถนำนิทานให้เพลงกล่อมนั้นมาช่วยทำให้ทารกสงบ และหลับง่ายขึ้น
เรื่องนี้มีผลงานวิจัยรองรับชัดเจน ผู้ทำวิจัยคือ ดร.โธมัส อาร์ เวิร์นนี จิตแพทย์ชาวอเมริกัน จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ทำการทดลองให้คุณแม่ตั้งครรภ์ร้องเพลงกล่อมเด็กเป็นประจำทุกวัน
ผลปรากฏว่าเมื่อคลอดทารกออกมา เวลาร้องไห้หรืองอแง หากได้ยินเสียงเพลงกล่อมเด็กของแม่ที่แม่เคยร้องให้ฟังตั้งแต่ตอนอยู่ในครรภ์ ทารกจะนิ่งสงบลง และหันไปสนใจเสียงเพลงกล่อมเด็กทันที
แต่ถ้าคุณแม่คนไหนไม่ถนัดจริง ๆ อาจจะลองเปิดซีดีดนตรีคลาสสิกให้ลูกในท้องฟังก็ไม่ผิดกติกา
มีงานวิจัยบ่งชี้ว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ที่ฟังเพลงอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคลอดทารกออกมา เขาจะมีพัฒนาการด้านร่างกาย และไอคิวสูงกว่าทารกที่ไม่ได้ฟังเพลง
นอกจากนั้นแล้ว เด็กทารกที่ได้ฟังดนตรีเป็นประจำจะช่วยลดความเครียด ลดอัตราการเต้นของหัวใจ และช่วยให้ทารกสงบลงได้
ถ้าอยากกล่อมให้ลูกน้อยหลับสบาย แนะนำให้ฟังดนตรีที่มีความเร็วประมาณ 50 – 60 เคาะต่อนาที หรือง่าย ๆ ก็คือดนตรีที่มีจังหวะผ่อนคลาย ตัวอย่างเช่่น ดนตรีของบาค
ผลการศึกษาชี้ว่าเพียงฟังดนตรีจังหวะผ่อนคลายเป็นเวลา 45 นาทีก่อนนอน จะทำให้ค่ำคืนนั้นกลายเป็นวันแห่งการพักผ่อน (ทั้งของลูกน้อยและของคุณ) อย่างแท้จริง
ทุกวันนี้ครอบครัวของดิฉัน เราจะเปิดเพลงคลาสสิกคลอเบา ๆ เวลาพาลูก ๆ เข้านอน ช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกสงบ และหลับสบาย แม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเราที่อาจต้องเผชิญกับความเครียด ก็พลอยได้ผ่อนคลายหายเหนื่อยไปในตัวเลยละค่ะ
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก
M&C แม่และเด็ก